นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล PRIVACY POLICY

    บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ดำเนินธุรกิจหลักในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั้งภายในและภายนอกประเทศ เราให้ความสำคัญด้านการเคารพสิทธิในความเป็นส่วนตัวของท่านและการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการดำเนินงานของบริษัทด้วยมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ท่านได้มั่นใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับจะถูกนำไปใช้ตรงตามความต้องการของท่านและถูกต้องตามกฎหมาย เราจะจัดเก็บ บันทึก เก็บรักษา เปิดเผย ใช้ข้อมูลส่วนตัวของท่าน เมื่อท่านใช้บริการต่างๆ ของเรา เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย (“Platform”)

การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับ โดยทางตรงหรือทางอ้อม อันประกอบด้วย
            1.) ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล เพศ อายุ สัญชาติ วันเกิด สถานภาพสมรส ที่อยู่ อาชีพ สถานที่ทำงาน รหัสไปรษณีย์ ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Email address) บัญชี Social Media หมายเลขโทรศัพท์ บัตรเครดิต รายได้ส่วนบุคคลต่อเดือน รถยนต์ที่ใช้งาน
            2.) รายละเอียดที่ใช้ในการระบุตัวตนและการยืนยันตัวตน เช่น ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน เลขประจำตัวประชาชน ข้อมูลหนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับรถ ลายมือชื่อ
            3.) รายละเอียดการทำงาน เช่น อาชีพ ตำแหน่ง เงินเดือน ค่าตอบแทน
            4.) ข้อมูลทางการเงิน (Financial and Transaction Data): หมายเลขบัญชี หมายเลขบัตรเครดิต หมายเลขบัตรเดบิต ข้อมูลรายได้ต่อเดือน ข้อมูลการชำระเงิน เป็นต้น
            5.) ข้อมูลทางเทคนิคและการใช้งาน (Technical and Usage Data): หมายเลข IP Address ข้อมูลการเข้าสู่ระบบข้อมูลการค้นหา (website browsing) จากการใช้ข้อมูล Cookie ID ประเภทอุปกรณ์การตั้งค่า แพลตฟอร์มและเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ใช้ในการเข้าถึงเว็บไซต์ของเรา
            6.) ข้อมูลในการตัดสินใจเลือกหรือไม่เลือกผลิตภัณฑ์และการบริการ (Profile Data) เช่น เหตุผลในการซื้อ หรือเลือกที่อยู่อาศัย งบประมาณ วัตถุประสงค์ ผลิตภัณฑ์อื่นที่ใช้เปรียบเทียบ ความเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการ ข้อมูลการเข้าชมผลิตภัณฑ์และการบริการ
            7.) ข้อมูลการตลาดและการสื่อสาร (Marketing and Communication Data): การตั้งค่าของท่านในการรับข้อมูลการตลาดจากบริษัทและบุคคลที่สาม (third party) รวมถึงข้อมูลการติดต่อกับบริษัท เช่น เทปบันทึกเสียงกรณีที่ท่านเข้ามาติดต่อทาง call center หรือผ่านทางช่องทาง social media อื่น ๆ เป็นต้น
            8.) พฤติกรรมการสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ โดยบริษัทมีสิทธิใช้คุกกี้ (Cookies) เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล เช่น
                        หมายเลขไอพี (IP address)
                        ชนิดของเว็บเบราว์เซอร์ (Web browser) ที่ใช้ในการเข้าถึง
                        หน้าเว็บ (Web page) ที่เข้าเยี่ยมชม
                        เวลาที่เยี่ยมชม
                        เว็บไซต์ที่อ้างถึงเว็บของบริษัท
            9.) พฤติกรรมการใช้งานแอปพลิเคชั่น โดยจะมีการเก็บ Log การใช้งานของท่านจากบนแอปพลิเคชั่นของทางบริษัท
            10.) ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ของผู้งาน กิจกรรม พิธีการหรือพิธีกรรมของบริษัท เพื่อใช้ในการสื่อสารและประชาสัมพันธ์บริษัททั้งภายในและภายนอกบริษัท
            11.) ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data): ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทข้อมูลอ่อนไหว เช่น ข้อมูลเชื้อชาติ ความเชื่อ ศาสนา ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ และ ข้อมูลชีวมิติ (biometric data) ข้อมูลประวัติอาชญากรรม รวมถึงข้อมูลอื่นใดในทำนองเดียวกัน เป็นต้น ทั้งนี้บริษัทจะไม่ทำการประมวลผลข้อมูลอ่อนไหวทุกประเภท

เด็ก ผู้เยาว์ บริษัทไม่มีเจตนาที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนตัวจากเด็กอายุน้อยกว่าเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด (“ข้อจำกัดด้านอายุ”) หากท่านมีอายุน้อยกว่าข้อจำกัดด้านอายุ โปรดอย่าใช้บริการของบริษัท และอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวใดๆ แก่บริษัท หากท่านเป็นบิดามารดาของเด็กที่มีอายุน้อยกว่าข้อจำกัดด้านอายุและทราบว่าบุตรของท่านได้ให้ข้อมูลส่วนตัวแก่บริษัท โปรดติดต่อบริษัท และสามารถขอใช้สิทธิของท่านได้ หากท่านเป็นเด็กที่มีอายุน้อยกว่าข้อจำกัดด้านอายุ และมีความจำเป็นในการรับบริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัท ขอให้บิดามารดาให้ความยินยอมในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพียงเท่าที่จำเป็น หรือเพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทอาจเก็บข้อมูลของโดยแปลงเป็นข้อมูลไม่ระบุตัวตนกรณีที่มีการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ หรือโฆษณาอื่นที่ไม่ใช่ของบริษัท นโยบายการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเป็นไปตามที่เว็บไซต์นั้น ๆ กำหนด โดยบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

วิธีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล เช่น
            ผ่านช่องทางของบริษัท เช่น ทางอิเล็กทรอนิกส์ เอกสาร ด้วยวาจาตามสถานการณ์
            ผ่านช่องทางของคู่ค้า/ผู้ให้บริการอื่น เช่น Facebook, Instagram, Twitter, Tiktok และ Line เพื่อการสร้างข้อมูลของท่าน (Profiles) หรือตัวแทน (Agent) เป็นต้น

วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม/การใช้/การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

            1.) เพื่อการทำรายการตามที่ท่านประสงค์ เช่น กรณีท่านลงทะเบียนขอรับข้อมูลและโปรโมชั่น บริษัทจะจัดเก็บและใช้เฉพาะข้อมูลพื้นฐาน เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Email address) หมายเลขโทรศัพท์เพื่อใช้สำหรับติดต่อกลับ หรือกรณีการจองออนไลน์ (Online Booking) บริษัทจะทำการจัดเก็บและใช้ข้อมูลที่จำเป็นในการออกเอกสารสำคัญสำหรับการทำรายการจอง
            2.) เพื่อการแก้ไข ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น การจัดทำแผนการตลาด วิเคราะห์ข้อมูลการใช้ ประเมินการบริการ รวมถึงการปรับปรุง พัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการของบริษัท
            3.) เพื่อติดต่อสื่อสาร แจ้งข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท รวมถึงสิทธิประโยชน์ โปรโมชันที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ และบริการดังกล่าว หรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกี่ยวกับนโยบายการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในอนาคต
            4.) พื่อกิจกรรมเกี่ยวกับการตลาดและการส่งเสริมการตลาด รวมถึงผลิตภัณฑ์ การบริการ และกิจการที่น่าสนใจให้แก่ท่าน
            5.) เพื่อดำเนินการตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา รวมถึงกับคู่สัญญาที่บริษัทใช้บริการ เช่น แบ่งปันข้อมูลตำแหน่งพื้นที่ของท่าน กรณีบริษัทใช้บริการเพื่อการระบุตำแหน่งพื้นที่ของบุคคลอื่น
            6.) เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย เช่น เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล การศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสม ทั้งนี้เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน
            7.) เพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ได้แจ้งขณะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือวัตถุประสงค์อื่นที่เกี่ยวข้องกับข้อหนึ่งข้อใดข้างต้น
            8.) บริษัทจะไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่ เป็นการใช้หรือเปิดเผยเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น หรือเป็นการเปิดเผยต่อบุคคลในบริษัท หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องตามสัญญา หรือดำเนินการตามกฎหมาย หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล หรือได้รับความยินยอมจากท่าน

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง
เพื่อเป็นการเพิ่มคุณภาพการบริการ และ/หรือเพื่อเป็นช่องทางการนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการ, การแจ้งข่าวสารและสิทธิประโยชน์ต่างๆ, รวมถึงเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารเพื่อเชิญชวนเข้าร่วมงานกิจกรรม ประชาสัมพันธ์ข้อมูลการตลาดและ/หรือโปรแกรมส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ หรือบริการบริษัท บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทในเครือ รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจของเรา นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในวรรคแรก บริษัทไม่มีนโยบายในการขายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่สาม ข้อมูลของท่านจะถูกเก็บรักษาเป็นความลับ บริษัทจะไม่ทำการเปิดเผยข้อมูลของท่านเว้นแต่กรณีที่จำเป็น เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งแก่ท่านตามรายละเอียดข้างต้น หรือที่ได้รับความยินยอมจากท่านไว้ก่อนหน้านี้ ให้กับบุคคลหรือหน่วยงานดังต่อไปนี้
            1.) เปิดเผยข้อมูลให้แก่ผู้ให้บริการภายนอก (Supplier/Outsource/Service Provider) เช่น บริษัทตัวแทน คู่ค้า ผู้รับเหมา ที่ปรึกษา สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการ Cloud Computing บริษัทรับจ้างทำกิจกรรมทางการตลาด บริษัทรับจ้างพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งอาจมีทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยบุคคลหรือหน่วยงานอื่นที่เราทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปนั้น สามารถเก็บรวบรวม และใช้ได้เฉพาะวัตถุประสงค์ตามที่ได้ระบุไว้ในข้อตกลงเท่านั้น
            2.) เปิดเผยข้อมูลให้แก่หน่วยงานราชการหรือหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือเป็นไปตามคำสั่งของหน่วยงาน

บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศหรือไม่
บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้รับข้อมูลอื่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัท เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บน server/cloud ในต่างประเทศ กรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานไม่เพียงพอ บริษัทจะดูแลการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับ เช่น มีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าว

บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าใด (Data Retention)
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นในการบรรลุวัตถุประสงค์ที่บริษัทรวบรวมไว้ กรณีที่ลูกค้าสิ้นสุดความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัทไปแล้ว บริษัทจะทำการเก็บรักษาข้อมูลของท่านไว้ตามนโยบายการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ซึ่งเป็นกำหนดระยะเวลาอย่างน้อย 10 ปี เพื่อการตรวจสอบการให้สินค้าหรือบริการแก่ท่าน และเพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมาย และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาในการเก็บรักษาแล้ว บริษัทจะทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

บริษัทคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร (Data Security)

บริษัทมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด และเคารพในความเป็นส่วนตัวของท่าน รวมถึงการปฏิบัติตามข้อกฎหมาย โดย
            1.) จัดหมวดหมู่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลลับ (confidential information)
            2.) มีมาตรการในการบริหารจัดการข้อมูล (Organizational Measure) และมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) เพื่อป้องกันการดักฟัง ปลอมแปลงข้อความ การเข้าถึง การใช้งาน หรือการเปลี่ยนแปลงโดยมิได้รับอนุญาต เช่น ระบบสารสนเทศในการรักษาความปลอดภัย นโยบายการรักษาข้อมูลความลับของลูกค้า เป็นต้น
            2.) พนักงาน ลูกจ้าง และผู้ให้บริการภายนอกของบริษัท (Supplier/ Outsource/ Service Provider) มีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ตามสัญญารักษาความลับที่ได้ลงนามไว้กับบริษัท
            2.) จัดทำกระบวนการเพื่อจัดการกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล (data breach) และจะแจ้งให้ท่านทราบหากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกละเมิด โดยการดำเนินการจะเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
            โดยบริษัทได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ และบริษัทได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสมนอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทมีหน้าที่ต้องรักษาความลับข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทกำหนดขึ้น

ข้อยกเว้นการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
            ในกรณีที่ไม่ถือว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อนโยบายการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคล เช่น
            1.) ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะแล้วตั้งแต่เวลาท่านได้เปิดเผยข้อมูลให้บริษัท หรือถูกเปิดเผยต่อสาธารณะโดยมิใช่ความผิดของบริษัท
            2.) การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยได้รับความยินยอมจากท่านไม่ว่าเป็นลายลักษณ์อักษร หรือการอนุญาตโดยวิธีการอื่นใด
            3.) การเปิดเผยข้อมูลตามความจำเป็น เนื่องจากกระทำตามกฎหมาย คำสั่ง กฎข้อบังคับ คำสั่งศาล หน่วยงานของรัฐ หรือตามความจำเป็นอื่นใด


สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลมีอะไรบ้าง (Data Subject Rights)

ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถยื่นคำร้องใช้สิทธิตามช่องทางการติดต่อที่เราได้ให้ไว้ในหัวข้อ “ช่องทางการติดต่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” บริษัทจะดำเนินการตามคำร้องขอของท่านโดยเร็วที่สุดไม่เกิน 30 วัน หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับปริมาณและความซับซ้อนของคำร้องขอ

สิทธิในการถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)
            ท่านมีสิทธิขอเพิกถอนความยินยอมที่ให้ไว้กับบริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้ และบริษัทจะหยุดการประมวลผลข้อมูลของท่านโดยเร็ว ทั้งนี้ หากบริษัทไม่สามารถทำการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อไปภายใต้ฐานกฎหมายอื่น ๆ บริษัทจะทำการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกด้วย

สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)
            ท่านมีสิทธิขอทราบและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทหรือ ขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมได้ ซึ่งเมื่อบริษัทได้รับคำร้องขอแล้วจะดำเนินการภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับการร้องขอ

สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification)
            ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการแก้ไขเพื่อให้ข้อมูลถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Data Portability)
            ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลที่เกี่ยวกับท่าน รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นได้ หรือ ขอรับข้อมูลที่บริษัทส่งหรือโอนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง

สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Erasure)
            ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบ หรือ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ในกรณีดังนี้
            1.) ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไม่มีความจำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอีกต่อไป
            2.) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและบริษัทไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะทำการประมวลผลได้
            3.) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล คัดค้านการประมวลผล
            4.) เป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอันมิชอบด้วยกฎหมาย
            5.) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล คัดค้านการประมวลผลข้อมูล (นอกเหนือจากที่เกี่ยวข้องกับการคัดค้านการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง) และบริษัทไม่มีเหตุแห่งการอ้างการประมวลผลโดยประโยชน์อันชอบธรรม

สิทธิในการห้ามมิให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restriction of Processing)
            ท่านมีสิทธิในการห้ามมิให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อเข้าเงื่อนไขดังต่อไปนี้
            1.) การประมวลผลไม่จำเป็นอีกต่อไป แต่การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลยังคงมีความจำเป็นเพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย             2.) เป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอันมิชอบด้วยกฎหมาย แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต้องการห้ามมิให้มีการประมวลผลแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของตน             3.) เมื่ออยู่ในระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ             4.) เมื่ออยู่ในระหว่างการพิสูจน์ให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า

สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
            ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูล ในกรณี ดังนี้
            1.) กรณีที่เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง
            2.) กรณีที่เป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์หรือสถิติ เว้นแต่การจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท
            3.) กรณีที่เป็นข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ด้วยเหตุจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทหรือ เหตุจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เว้นแต่บริษัทแสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือ เป็นไปเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือ การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint)
            ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในกรณีที่บริษัท ลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัท กระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม

บริษัทมีสิทธิในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทเก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถแจ้งบริษัทเพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้

การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เราอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราว โดยคุณสามารถทราบข้อกำหนดและเงื่อนไข นโยบายที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนี้ได้ผ่านทางเว็บไซต์ของเรานโยบายนี้แก้ไขล่าสุดและมี ผลใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564

ช่องทางการติดต่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

ติดต่อ : เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล Data Protection Officer (DPO)
อีเมล์ : dpo@assetwise.co.th
ที่อยู่ : บมจ. แอสเซทไวส์ 9 ซอยรามอินทรา 5 แยก 23 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10220
ศูนย์บริการลูกค้า (ส่วนควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล) : 02-168-0000 (ทุกวัน เวลา 8:00 – 20:00 น.)